“พญาครุฑ”

เป็นสัตว์ในนิยายของศาสนาพุธและฮินดู และยังปรากฏในวรรณคดีที่สำคัญหลายเรื่อง เช่น มหาภารตะ กล่าวไว้ว่าครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและเกิดการทะเลาะกันจนเป็นศัตรูกันในที่สุดนอกจากนี้ ยังมีปุราณะที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าพญาครุฑ ตามคนไทยแต่โบราณเชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนก และก็เป็นพาหนะของพระวิษณุ ปกติแล้วอาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรเป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า”สุบรรณ”ซึ่งหมายถึง”ขนวิเศษ”นั่นเอง ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ และมีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ  พญาครุฑยังมีความเกี่ยวข้องคนไทยอีกหลายอย่าง เป็นความเชื่อและศรัทธาที่คนไทยมีต่อพญาครุฑ เพราะเชื่อว่าพญาครุฑช่วยเสริมสร้างอำนาจ วาสนาบารมี กับผู้ที่เคารพบูชา หากจะกล่าวถึงวัตถุมงคล พญาครุฑ ในประเทศไทยนั้น ที่สุดและหนึ่งเดียว ของมหาบารมีของพญาครุฑคงมีเพียง องค์พญาครุฑ ของหลวงพ่อวราห์ วัดโพธิ์ทอง หรือ วัดทุ่งที่มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี มีหลวงพ่อพุทธโพธิ์ทองเป็นพระประธาน ตำนานองค์พญาครุฑ หลวงพ่อวราห์ หากใครได้บูชา จิตใจดี กตัญญูบิดามารดาเปรียบเสมือนแก้วสารพัดนึกขององค์พญาครุฑ

“ท้าวเวสุวรรณ”

ตำนานหนึ่งเชื่อว่าในอดีตท้าวเวสสุวรรณ เป็นพราหมณ์เปิดโรงงานขายหีบอ้อย ค้าขายอย่างร่ำรวยเเละนำเงินไปบริจาคให้กับผู้ยากไร้ ด้วยผลบุญนี้ท้าวเวสสุวรรณ จึงได้รับพรจาก พระพรหม เเละ พระอิศวร ให้ท้าวเวสสุวรรณเป็นอมตะ เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติของทั้งปฐพี เทพแห่งความร่ำรวยเงินทอง ผู้คนจึงนิยม บูชาท้าวเวสสุวรรณ เพื่อความมั่งคังนั่นเอง ท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อธิบดีเเห่งอสูร เป็นเทพผู้ปกป้องพระพุทธศาสนา คุ้มครองโลกมนุษย์เเละเจ้าเเห่งทรัพย์ ที่ชาวจีนนับถือเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือ ไฉ่ซิงเอี้ย รูปร่างหน้าตาของท้าวเวสสุวรรณ ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี จะเป็นรูปยักษ์ถือกระบองขนาดใหญ่  เพราะท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษก รวมถึงภูติผีปีศาจ คนสมัยก่อนนิยมเเขวนรูปท้าวเวสสุววรณไว้เหนือเปลนอนเด็ก เพราะเชื่อว่า ภูติผีปีศาจจะไม่กล้าเข้ามารบกวนเด็กเล็ก เพราะมีท้าวเวสสุวรรณคุ้มครองอยู่